Home » » ฝันทีรอ ขอมีเธอ ตอนทีี่ 1

ฝันทีรอ ขอมีเธอ ตอนทีี่ 1

Penulis : mamnaka7 on วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 | 06:24




..เขามาแล้ว..

ในที่สุด เขาก็มาแล้ว..

เด็กสาวยืนหน้าเข้าไปสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองด้วยแววตาสดใส ยังกระจกเงาบานใหญ่อีกครั้งอย่างลวก ๆ

..ใครจะว่าหล่อนโม้ก็เถอะ แต่หล่อนจะขอบอกอยู่เดี๋ยวนี้นี่แหละ ว่าหล่อนจำเสียงฝีเท้าของเขาได้..ก็อ้ายเสียงลากฝีเท้าเบา ๆ บนพื้นไม้ที่ย่างกรายผ่านหน้าประตูห้องของหล่อนไปอย่างไม่แยแสนั่นแหละ..

"อ้าว..เฮ้ย ธันว์ มาเร็วดีนี่หว่า ดีเลยกูกำลังปวดหัวกับอ้ายรายงานบ้า ๆ นี่อยู่พอดี"

นั่นไงล่ะ นึกแล้วไม่มีผิด..

คนรอคอยอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงพี่ชายใหญ่บ๊งเบ๊งมาจากห้องข้าง ๆ ..และแน่ล่ะ ในเมือเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวหล่อนเพียงคนเดียว ที่เช้านอกออกในบ้านนี้ได้ตั้งแต่หล่อนอายุแค่แปดขวบ กระทั่งเดี๋ยวนี้หล่อนอายุย่างเข้าสิบหกแล้วเขาเองก็อายุเกือบ ๆ จะยี่สิบสองแล้ว มันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น..เสียงกริ่งประตูรั้วหรือเสียงร้องบอกกล่าวล่วงหน้า จึงดูเหมือนว่าจะไม่เคยจำเป็นสำหรับเขา

เด็กสาวคว้าหนังสือเรียนเล่มโตมากอดไว้แนบอก

เอาล่ะ..เมื่อพระเอกมาแล้ว ก็ถึงคราวที่นางเอกจะได้ออกโรงบ้าง

"พี่โจ๊กขา..จาเข้าไปนะค้า.."

หล่อนร้องบอก เมื่อเดินดุ่มจากห้องตัวเองไปเคาะประตูห้องของพี่ชายใหญ่ซะก๊อกสองก๊อกแล้ว

"เออ.."

พร้อมกับคำว่า..เออ..นั่นกระมัง ที่จาริกาเปิดประตูผลัวะเข้าไปข้างใน พร้อมกับรอยยิ้มประจบเต็มวงหน้า

"แปลกแฮะ วันนี้อยู่บ้านได้ เสาร์อาทิตย์ทั้งที ไม่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ รึไงฮึ..ยายจา" พี่ชายหล่อนเงยหน้าจากโต๊ะกลมกลางห้องขึ้นทัก ขณะที่คนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ด้วยกันนั่น กลับไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับรู้ถึงการ "มา" ของหล่อนเลยสักนิด

"แหม..พี่โจ๊กก็ พูดอย่างกับว่าจาชอบออกไปเที่ยวข้างนอกซะเต็มประดางั้นแหละ ร้อนจะตายอ่ะ สู้อยู่บ้านอ่านหนังสือยังจะดีเสียกว่าอีก"

"โหย..ท่าทางฝนจะตกใหญ่หรือไม่ก็แล้งหนักก็อีคราวนี้แหละวะธันว์" พี่โจ๊กหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เหมือนอยากจะเชื่อลงแทบตายยังไงยังงั้น "..เอ้า แล้วนี่มีธุระอะไรกับพี่ก็ว่ามา"

"ธุระอะไรคะ"

"เอ๊า ก็ธุระอะไรเล่า ที่ทำให้เราต้องระเห็จมาหาพี่ที่ห้องเนี่ย"

"ใครบอกว่าจามีธุรกับพี่โจ๊กเล่า จาจะอ่านหนังสือของจาต่างหาก" หล่อนปรายตาไปมองเขาชั่วแว่บหนึ่ง.."นิ่ง"..อีกตามเคย จะสนใจกันสักนี๊ดด..ด..ก็ไม่มี ฮึ..สงสัยคงต้องให้ช้างมาเต้นระบำให้ดูอยู่ตรงหน้ากระมัง ถึงจะละสายตาจากอ้าายหนังสือปึกหนา่เล่มนั้นได้

"จะอ่านหนังสือ แล้วมาบอกพี่ทำไมล่ะ"

"ไม่ได้มาบอก แต่จาจะมาขออ่านหนังสือที่ห้องพี่ต่างหาก อ๊ะ ๆ ห้ามปฏิเสธนอ้งสาวสุดที่รักเด็ดขาดนะคะ เพราะตอนนี้ห้องจามันร้อนมากกก...แอร์มันเสียตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พี่โจ๊กก็รู้"

"เออ..รู้ แล้วทำไมไม่ไปอ่านที่ห้องไอ้โจ้กับไอ้แจ๊คล่ะ ห้องนั้นมันก็มีแอร์เหมือนกันนี่ จะมากวนพวกพี่ทำไม"

ว่าแล้ว..ว่าแล้วไง..ว่าถึงอย่างไรหล่อนก็จะต้องเจอกับไอ้อาการบ่ายเบี่ยงของพ่อพี่ชายใหญ่เข้าจนได้ พวกผู้ชายนี่ยังไงกันนะ ชอบเห็นผู้หญิงในครอบครัวเป็นส่วนเกินในวงสนทนาระหว่างผู้ชายด้วยกันเองอยู่เรื่อย..ฮึ..แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก กับสถานการณ์แบบนี้ หล่อนเองก็เตรียมท่าไม้ตายเอาไว้แล้ว

"แหม..ก็พี่โจ้กับพี่แจ๊คเค้าออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วนี่คะ.." ก็ไอ้ลูกอ้อนกับดวงตาปรอย ๆ ของหล่อนนี่แหละ ที่เคยใช้ได้ผลกับพี่ชายทั้งสามคนของตวเองมาแล้วเกือบทุกครั้ง "..แล้วจาก็ไม่อยากเปิดแอร์หลาย ๆ ตัวตอนกลางวันแบบนี้ด้วย พี่โจ๊กไม่เคยได้ยินเหรอคะ ว่ายุคนี้พ.ศ.นี้ คนไทยจะต้องเที่ยวเมืองไทย กินของไทย ใช้ของไทย ร่วมใจประหยัด จะช่วยชาติพัฒนา ช่วยต่อชีวาประชากรไทย ช่วยเพิ่มควาศิวิไลซ์ให้กิจสังคม ช่วยปลุกระดมประชาธิ......"

"เฮ้ย ๆ หยุด ๆ ๆ..ไม่ต้องพูดแล้ว พี่ยิ่งปวด ๆ หัวอยู่" พี่โจ๊กรีบยกฝ่ามืออรหันต์ขึ้นห้ามทัพ ก่อนที่จาริกาจะทันได้พล่าม เอ๊ย..พูดต่ออีกยืดยาว "..ตามใจ อยากอ่านที่นี่ก็อ่านไป แต่ต้องอย่าทำเสียงดังนะ ห้ามซน ห้ามรื้อโน่น รื้อนี่ แกะข้าวของเครื่องใช้พี่เด็ดขาด โน่..ไปนั่งข้างหน้าต่างโน่นเลยไป จะได้ใกล้หูใกล้ตาพี่หน่อย"

แหม..สั่งยังกะหล่อนเป็นเด็ก ๆ แน่ะ อยู่ต่อหน้า "เขา" ซะด้วย เสียฟอร์มชะมัด

จาริกาเบ้ปาก หากแต่ก็ยอมเดินไปยังจุด "เฉพาะกิจ" ที่พี่ชายอนุมัติ แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิมันตรงนั้น

เอาน่ะ..ช่างมันเถอะ ถึงอย่างไรตอนนี้หล่อนก็ได้ระเห็จเข้ามาอยู่ในห้องนี้อย่างที่ตั้งใจแวะ "วางแผน"ไว้แต่แรกเรียบร้อยละ

เด็กสาวทำเป็นกางหนังสือเรียนที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นอ่านอย่างสนใจ หากแต่สายตาก็กลับแวะเวียนไปมองเสี้ยวหน้าคมเข้มที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั่นเสียทุกบ่อย

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมา หน้าตาเขาแทบไม่เปลี่ยนเลยสักนิด หากแต่นิสัยนี่สิ ที่แทบผิดแผกไปจากเดิมเสียสิ้น

"ม่ายอ๊าว..จาจะไปด้วย ๆ พี่โจ๊กใจร้าย พี่โจ้ใจร้าย พี่แจ๊คใจร้าย แล้ว..แล้วพี่ธัีนว์ก็ใจร้ายด้วย ใจร้าย..ใจร้ายกันหมดเลย..แง้..."

จาริกายังจำได้ดี ถึงวีรกรรมความเอาแต่ใจของตัวเองเมื่อครั้งยังเด็ก..ยามนั้น หากใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดของแก๊งค์ "สี่พี่ชาย"คิดจะหนีหายไปซุกซนที่ไหน ให้อย่างไร เด็กหญิงตัวน้อยก็ต้องขอตามติดวุ่นวายกับเขาไปซะทุกเรื่อง

"ชู้ว..ยายจานี่ พูดไม่รู้เรื่อง ก็จักรยานของเรามันไม่มีนี่นา" พี่โจ๊กซึ่งคราวนั้นเป็นถึงหัวโจกของกลุ่มตัดสินใจเสียงดุ

"จาก็ซ้อนพี่โจ๊กไปก็ได้นี่"

"ไม่เอา..จาชอบนั่งยุกยิก เดี๋ยวจักรยานล้มได้แผล คุณพ่อก็ดุพี่อีก"

"พี่โจ๊กก็ได้"

"..เฮอะ.." อีกฝ่ายสั่นหน้าพรืด

"งั้น...."

"พี่ไม่เอานะ..."

ยังไม่ทันจะได้บอก พ่อพี่ชายคนสุดท้องก็สั่นหน้าดิก เล่นเอาแม่คนขอน้ำตาร่วง

"แต่จาอยากไปนี่ จาอยากไป จาอยากเห็นปลาช่อนตัวโต ๆ ในสระนั่นอ่ะ..แง้...."

อยากร้องไห้แง ๆ ก็ร้องไปเถิ้ด..เพราะเผลอเพียงครู่เดียว จักรยานทั้งสี่คัน ก็ขี่สวิงสวายจากไปเสียตั้งไกลแล้ว

หาแต่แม่จอมแก่นแก้วก็ก้มหน้าบีบน้ำตาร้องไห้แง ๆ อยู่ได้ไม่นานนักหรอก เพราะรู้อยู่้ว่า ประเดี๋ยวเถอะ..หนึ่งในสี่ของจักรยานกลุ่มนั้นก็จะต้องวนกลับมารับหล่อนอีกจนได้ั

แล้วมันก็เป็นไปดังว่า...

"เอ้า..ขึ้นมา ชักช้าเดี๋ยวพี่ไม่ให้ไปด้วยนะ"

...เจ้าประจำ...ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ ๆ เขาก็จะเป็นฝ่ายใจอ่อนกับหล่อนก่อนใคร ๆ เสมอ ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ใช่พี่ชายร่วมสายโลหิตกันสักนิดออกคำสั่ง ก่อนที่คนที่ยิ้มเผล่เปื้อนน้ำตาไปทั้งหน้า จะตะกายขึ้นซ้อนท้าย ตามไปซนได้สมใจยั้นไหนต่อไหน..

จาริกายิ้มกริ่ม..เมื่อนึกมาถึงตรงนี้..

เมื่อไหร่กันหนอ ที่ไอ้เจ้าความรู้สึกดี ๆ ที่หล่อนมีต่อเขามันเปลี่ยนไป..เมื่อไหร่กันหนอ ที่ความอบอุ่นของหัวใจ ถูกก่อสานเติมเต็มขึ้นมาได้ด้วยภาพของผู้ายตรงหน้านี้..

"เอ้า..นั่งยิ้มอะไรอยู่ได้ หนังสือเรียนมันสนุกตรงไหนฮึ ยายจา"

เสียงของพี่ชายใหญ่ ทำเอาความคิดความฝันของหล่อนเป็นอันต้องสะดุด ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตามองหนังสือในมือตัวเองอย่างมีพิรุธ แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว

..เอ๊ะ นี่มันหนังสือใครหว่า แล้วหล่อนเผลอไปคว้ามาแทนหนังสือเรียนของตัวเองตอนไหน..

"อ๋อ..คือ คือไม่ใช่หนังสือเรียนหรอกค่ะพี่โจ๊ก หนังสือ...."จาริกาพลิกดูชื่อเรื่องที่หน้าปก"..หนังสือเกี่ยวกับศิลปะน่ะค่ะ ชื่ออาร์ตคอนเลคชั่น 2012 ของใครก็ไม่รู้น่ะ แต่ภาพข้างในสวยดี จาชอบ"

"เฮ้ย ๆ งั้นวางเลย หนังสือพี่ เล่มนี้หาซื้อยากซะด้วย จะดูก็ดูเล่มอื่น"

"ก็เล่มอื่นมันไม่มีภาพอาร์ตสวย ๆ แบบนี้นี่คะ เอาน่ะ..จายืมดูหน่อยละกัน" หล่อนพลิกดูคร่าว ๆ..สวยจริง ๆ ด้วยแฮะ

"ไม่ได้ เดี๋ยวยับ"

"โธ่..ไม่ทำยับหรอกค่ะ รับรองได้"

"ไม่เอา วางเลยวาง นี่..ถ้าไม่วางเดี๋ยวพี่ให้ออกไปอ่านหนังสือข้างนอกนะ"

"วางก็ได้" หล่อนกระแทกเสียงเล็ก ๆ ชักจะงอนตุ๊บป่องขึ้นมาซะงั้น "..พี่โจ๊กนะพี่โจ๊ก ใจดำชะมัด จาออกไปอ่านหนังสือข้างนอกดีกว่า" ว่าแล้วหล่อนก็คว้าหนังสือลุกเดินปึงปังออกมาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

จะว่าไป ทีแรกหล่อนก็โกรธพี่โจ๊กนั่นล่ะ ที่ขี้หวงชะมัด แต่ทำไปทำมาหล่อนก็พลอยนึกโกรธ "ใครอีกคน" ที่อยู่ด้วยกันในห้องนั่นขึ้นมาติดหมัด ที่ไม่มีทีท่าจะสนใจอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ดูสิ..หล่อนโดนพี่โจ๊กแกล้งขนาดนี้แล้ว เขากลับไม่แยแสหล่อนเลยสักนิด

แล้วนี่หล่อนทำอะไรผิดหนักหนาหรือ เขาถึงได้ทำเฉยชา ไม่อยากหือไม่อยากอือกับหล่อนนัก..

นึกแล้่วก็ให้น้อยใจ จนแทบ..แทบอยากร้องไห้

"จา..ยายจา.."

กลับเข้ามานั่งจ่อมจมตัวเองด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธระคนน้อยใจอยู่ในห้องได้ไม่นานเท่าไหร่ เสียงใครบางคนก็มาเรียกกวนใจอยู่หน้าห้อง

"ไม่ต้องมาง้อเลยนะ จาโกรธจริง ๆ ด้วย" ว่าจะไม่ตอบแล้วเชียวนา แต่ที่สุดก็ต้องลุกไปกระชากประตูเปิด แต่พอเห็นหน้าคนเรียกจาริกาก็ต้องหน้าง้ำซ้ำสอง "..อ้าว พี่แจ๊คเองเหรอคะ"

"ก็เออสิ นี่ทะเลาะกับใครมาอีกล่ะสิ"

"ก็พี่โจ๊กอ่ะ จายืมหนังสือดูหน่อยเดียวก็ไม่ได้ คอยดูนะ จาจะไม่พูดกับพี่โจ๊กเลย..สิบวัน !!"

คนฟังหัวเราะหึหึ..ก่อนจะส่งซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่มาให้แม่น้องสาว

"เอ้า นี่..เมื่อกี้นี้พี่เดินเข้าบ้านมาเจอพี่ธันว์กำลังจะกลับเข้าพอดี เค้าฝากนี่มาให้แน่ะ ไปกวนอะไรพี่เค้าอีกล่ะเราน่ะ"

ฝากมาให้งั้นเหรอ..จาริการับซองหนัก ๆ นั่นมาถือไว้ในมือก่อนจะอุบอิบตอบ "เปล่าสักหน่อย"

ฮึ..พูดกับเราในห้องนั่นยังไม่พูดสักคำ ยังจะมีหน้าฝากอะไรมาให้อีกล่ะ

จาริกาแง้มซองสีน้ำตาลออกด้วยความอยากรู้...และเพียงชั่วครู่ ของสิ่งนั้นก็เรียกเอารอยยิ้มที่หายไปกลับคืนมาจนได้..

............

"ไงยะ..คุณหญิงจา วันนี้ทำไมมาแต่เช้าได้ล่ะเนี่ย แล้วนั่นถืออะไรมาด้วยน่ะ"

เด็กสาวตรงมาวางกระเป๋าหนังสือลงบนโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นหูกวางใกล้ ๆ กับเพื่อนสาว ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งโดยที่ไม่ยอมละมือจาก "หนังสือเล่มนั้น"ออกจากอก

แหม..จะให้วางลงได้อย่างไร คนสำคัญของหัวใจให้ยืมมาขนาดนี้

"หนังสือศิลปะน่ะ" จาริกาตอบเพื่อนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม..ถึงจะเป็นหนังสือคนละเล่มกับที่อยากยืมพี่โจ๊กอ่าน แต่อย่างน้อย..เขาก็ยังให้หล่อนยืมเป็นการปลอบใจล่ะนะ

"หนังสือศิลปะ ??" แม่คนทักร้องเสียงหลง "ต๊าย นี่แกหันไปสนใจไอ้ศิลเปรอะ เอ๊ย..ศิลปะอะไรนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ"

"ก็..ไม่ได้สนใจอะไรมากหรอก แต่เล่มเนี้ยะ..คนสำคัญเค้าให้ยืมมาน่ะ" และนั่น..ก็คงหมายถึงหล่อนยังมีค่าในสายตาของเขาอยู่บ้าง แม้บางครั้งจะแอบรู้สึกเหมือนถูกทิ้งขว้างอยู่เสมอก็เถอะ

จาริการู้สึกอิ่มเอมอยู่ในอก

"ให้ฉันทายมั้ยล่ะว่าใคร.." ยายรสาทำท่านึก ก่อนจะผงกหัวหงึก ๆ เหมือนนั่งทางในเห็น "..อ้อ..ข้ารู้ ข้าเห็น คนสำคัญที่ว่าก็คือตาแก่ข้างบ้านที่อยู่ติดกะแกใช่ป่าวล่ะ"

"บ้า.." จาริกาหัวเราะ "แก่เก่ออะไรกัน เค้าอายุเท่าพี่โจ๊กแค่นั้นเอง" จาริกาหัวเราะ

"ว้าว ก้าวหน้านะแก..ไหน ยืมดูหน่อยสิว่าหนังสือแบบไหน ไม่ใช่หนังสือนู้ดนะ" ยายรสาอาศัยความไว ฉกหนังสือไปจากอกหล่อนจนได้

"โอ๊ะ.."

"โธ่เอ๊ยยย..ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย ก็มีแต่รูป ๆ ๆ งานศิลปะอะไรก็ไม่รู้ทั้งเล่มเลยน่ะ มันน่าสนใจตรงไหนว้า..อุ๊ย.."

พลิกหน้าหนังสือไปไม่เท่าไหร่ อะไรบางอย่างก็หลุดร่วงลงมาอยู่บนหน้าตักคนบ่น

"เฮ้ย..นี่มันรูปผู้หญิงนี่นา สวยซะด้วยอ่ะ..." ยายรสาคว้าขึ้นมาก่อนจะส่งต่อให้คนที่นั่งทำหน้าเหรอหราอยู่ใกล้ ๆ "...ใครน่ะจา แล้วทำไมพ่อพระเอกของแกถึงมีรูปของเค้าด้วย"

"........."

"นี่อย่าบอกว่าไม่รู้นะ หรือว่า..หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็น.." ยายรสาเกือบหลุดปากออกมา ดีแต่ทว่ายั้งไว้ได้ทันอยู่ "..เออ..เป็นเพื่อนไง คงเป็นแค่เพื่อนที่มหาวิทยาลัยเค้าแหละ แหม..แก..อย่าคิดมาก"

คนเดาร่ายยาวแบบเดาไปเรื่อย ด้วยหวังจะปลุกปลอบคนที่นั่งเงียบอยู่ตรงหน้า หากแต่ความรู้สึกของจาริกามันแกว่งไกวคิดไปไกลเสียนักหนาแล้ว

...............

(โปรดติดตามตอนต่อไป)









Share this article :
 
Design Template by panjz-online | Support by creating website | Powered by Blogger